ตอนนี้เป็นตอนที่ชวนจิ้นที่สุดเท่าที่เคยทำมาคนแต่งๆแล้วยังอายเองเลย
ตอนที่ 21 ความหมายของชีวิต
“อัลวิส ข้าพเจ้าไม่เข้าใจว่าทำไมนายถึงให้ผ่านน้อยขนาดนั้นล่ะ”วีถามอัลวิสขณะเดินทางกลับที่พัก
“เพราะการตีความหมายในความสมัครใจ โดยซ่อนคริสตัลแห่งความจริงเอาไว้ตรงโต๊ะสอบของข้าไง ข้าจึงคัดหางออกได้ไม่ยาก”อัลวิสพูดแบบไม่ใส่ใจแต่มองสมุดที่จดคำตอบก่อนจะนึกไปถึงคำตอบของเนบิวลา ”ผมมีเพื่อนตัวหนึ่งที่ทำให้ผมมาอยู่ตรงนี้ได้ เป็นเพื่อนตัวแรกของผม ผมอยากแข็งแกร่งขึ้นเพื่อ ปกป้องเขาในฐานะเพื่อนตัวสำคัญของผมครับ”
“เราน่ะเหรอที่ทำให้เจ้านั่นมาอยู่ตรงนั้นได้ ไม่จริงน่า”อัลวิสครุ่นคิดอยู่ตัวเดียวจนไม่ใส่ใจการเรียกของวี
จนวีต้องเอามือมาสะกิดทำให้อัลวิสหันขวับไปมองวีพร้อมถามว่า“มีอะไรเหรอวี” ทำเอาตัวที่เรียกถามออกมาด้วยความเป็นห่วง”อัลวิสเป็นอะไรรึเปล่า ข้าพเจ้าเรียกตั้งนานทำไมไม่ได้ยิน”
“ไม่มีอะไรหรอก เอ่อวีนายกลับก่อนเลยนะข้าเพิ่งนึกได้มีธุระนิดหน่อย”อัลวิสตอบวีก่อนจะวิ่งหายไปในทันที
“อ้าวอัลวิส เป็นแบบนี้ทุกทีเลย”วีบ่นนิดก่อนจะเดินกลับที่พักคนเดียว
ณ โบสถ์เล็กๆในป่าทางเหนือของเมืองแสง
“อย่าไปเล่นไกลนะ เทียร์”เจ้าอาวาสของโบสถ์ซึ่งเป็นกวางค่อนข้างแก่พูดกับแกะอายุประมาณ 8 ขวบ
“ค่า”แกะน้อยนามเทียร์รับคำก่อนจะวิ่งเล่นแถวนั้นจนพบกับบางสิ่ง
“อะไรน่ะ”เทียร์วิ่งเข้าไปดูบางสิ่งที่กำลังพิงต้นไม้อยู่
“ว้าย เป็นอะไรรึเปล่าคะ”เทียร์รีบวิ่งไปดูทันทีที่เห็นร่างนั้นชัดว่าร่างนั้นได้รับบาดเจ็บค่อนข้างสาหัสมากมีแผลตั้งแต่ไหล่ลากยาวลงมาจนถึงลำตัวมีเลือดไหลทะลักออกมาจากตัวเป็นลิ่มๆ
“แย่แล้วคุณตาคะ”เทียร์รีบวิ่งกลับไปหาเจ้าอาวาสโบสถ์ทันทีก่อนทั้งสองจะพาร่างนั้นกลับมาที่บ้านของเธอที่อยู่ใกล้ๆโบสถ์แล้วเริ่มทำแผลและรักษา
“สาหัสมากเลยนะ เทียร์ไปเอาผงห้ามเลือดกับผ้าพันแผลมาให้ตาที”เจ้าอาวาสกวางคาทาสพูดก่อนจะร่ายมนต์ห้ามเลือดใส่ร่างตรงหน้า
“ค่ะ”พูดจบร่างเล็กๆของแกะตัวน้อยก็วิ่งไปที่ตู้ยาภายในบ้านก่อนจะหยิบกระปุกใส่ผงห้ามเลือดกับผ้าพันแผลออกมาแล้วรีบวิ่งไปที่เตียงรักษา
“ได้แล้วค่ะ”เทียร์พูดก่อนจะยื่นอุปกรณ์รักษาให้
“อืมดีมากเทียร์ออกไปก่อนนะถ้ามีอะไรตาจะเรียก”คาทาสพูดก่อนจะเริ่มทำการรักษาร่างตรงหน้า
“ค่ะ”เทียร์รับคำก่อนจะออกไปรอข้างนอก
หลังจากรักษาเสร็จ
“เขาเป็นไงบ้างคะ”เทียร์ถามทันทีที่เห็นคาทาสเดินออกมาจากห้อง
“เขาไม่เป็นไรแล้วล่ะพรุ่งนี้ก็น่าจะฟื้น”คาทาสตอบก่อนจะอุ้มแกะน้อยเทียร์ขึ้นมา
“เอาล่ะสิ่งที่เขาต้องการคือการพักผ่อนงั้นเทียร์อยู่กับตาก่อนนะ”คาทาสพูดก่อนจะอุ้มแกะน้อยไปอีกห้องหนึ่ง
อีกด้านหนึ่ง
“ไวซ์ ของที่ข้าสั่งก่อนจะออกไปเมื่อคืนล่ะ”อัลวิสถามเพราะเขาสั่งบางอย่างให้ไวซ์ทำก่อนจะออกไปช่วยนายพลอิทาลุสแล้ว
“ครับ นี่ครับยาทางซ้ายจะเพิ่มอายุ 10 ปีสองวัน ส่วนทางขวาลดอายุลงสิบปีครับ”ไวซ์พูดก่อนจะหยิบซองยาออกมาถือไว้ในมือทั้งสองข้างซึ่งมียาเม็ดสีแดงทางซ้ายและสีฟ้าทางขวามายื่นให้อัลวิส
“ขอบใจมาก”อัลวิสรับยาทั้งสองมาเก็บไว้ในกระเป๋ากางเกงของตน
“งั้นผมกลับก่อนนะครับ ถ้ากลับช้าเดี๋ยวพี่เชียร์เป็นห่วง”ไวซ์พูดก่อนจะวิ่งออกไป
“ถ้ามียาทั้งสองอย่างนี่ล่ะก็ ฮึๆฮ่าๆ กลับไปหาเจ้าวีดีกว่า”อัลวิสหัวเราะร่วนก่อนจะวิ่งกลับไปที่ๆพักของตนในทันที
“พี่อัลวิส กลับช้าอีกแล้วนะครับ”วิสบ่นผู้เป็นพี่ของตนที่กลับมาดึกเป็นประจำแต่ไม่รู้ทำไมวันนี้เขาจึงรู้สึกสดชื่นอย่างประหลาดในตอนเช้า
“โทษทีๆ มีธุระนิดหน่อยน่ะ”อัลวิสพูดก่อนจะเดินเข้ามาในห้อง
“ทุกทีเลยนะครับเนี่ย เอาเถอะไปนั่งรอที่โต๊ะเลยครับเดี๋ยวผมทำอะไรให้ทาน”วิสพูดก่อนจะยิ้มบางๆเพราะถึงยังไงเขาก็ดีใจที่พี่ยังอยู่กับเขาอยู่
“อื้ม งั้นข้าไปรอที่โต๊ะนะ”อัลวิสพูดก่อนจะเดินไปรอที่โต๊ะ
“อัลวิสข้าพเจ้าว่า พวกนายเป็นพี่น้องที่น่ารักดีนะ”วีพูดกับอัลวิสที่โต๊ะอาหารที่เพิ่มเข้ามาหลังทั้งสองตัวมาอยู่ได้ไม่นานเล่นเอาอัลวิสที่กำลังดื่มน้ำสำลักน้ำพรวดทันที
“วีพะ...พูดอะ...อะไรน่ะขะ...ข้ากับวิสน่ะมะ...ไม่ได้เป็นยะ..อย่างงั้นสักหน่อย”อัลวิสตะกุกตะกักทั้งจากอาการสำลักกับความอายจนใบหน้านั้นแดงเกินกว่าจะมาจากการสำลัก
“ข้าพเจ้าแค่คิดเฉยๆ ทำไมนายต้องสำลักน้ำด้วยล่ะ”วีถามหลังจากเช็ดหน้าที่พึ่งโดนน้ำที่อัลวิสสำลักใส่เต็มๆ
“ไม่มีอะไรทั้งนั้นแหละ”อัลวิสหันหน้าไปทางอื่นโดยไม่สบตาวีทำให้วียิ้มเตรียมจะแซวต่อแต่ว่า
“พี่ครับ อาหารมาแล้วครับ”วิสพูดพร้อมหยิบอาหารแสนอร่อยหลายจานที่อยู่ในถาดที่กำลังถืออยู่วางลงแล้วเริ่มแจกให้ทั้งอสงคนกินแล้วก็เดินไปนั่งตรงหัวโต๊ะในทันที
“ว้าววันนี้ทำไมทำเยอะจังล่ะ ปกติน้อยกว่านี้นะ”วีมองอาหารหลากหลายอย่างมากว่าปกติ
“วันนี้เป็นวันครบรอบวันที่พี่ได้รับตำแหน่งHunter Killers ครบรอบสิบปีครับ”วิสยิ้มให้อัลวิสที่กำลังมองมาด้วยสายตาที่ตกใจ
“วิสยังจำได้อยู่เหรอ”อัลวิสถามเพราะตนนั้นลืมไปเรียบร้อยแล้ว
“ก็วันนั้นเป็นวันที่พี่ลองชิมอาหารที่ผมทำครั้งแรกนี่ครับ จะลืมได้ยังไงล่ะครับ”วิสยิ้มให้ทำให้อัลวิสหน้าขึ้นสีวูบก่อนจะพูดตัดบทว่า
“กินกันดีกว่า เดี๋ยวพรุ่งนี้ต้องตื่นแต่เช้า”พูดเสร็จก็เริ่มจัดการอาหารตรงหน้าทันที
“ครับ”วิสยิ้มให้ผู้เป็นพี่ก่อนจะลงมือจัดการอาหารของตนบ้าง
หลังจากทั้งสามทานข้าวเสร็จ
“วีนายไปนอนก่อนเลยวิสอยู่คุยกับข้าแปปนึง”อัลวิสโบกมือบอกให้วีไปนอนก่อนซึ่งวีที่ไปนอนรอกลับได้ยินเสียงทั้งสองชัดเจนมาก
“เอ่อมีอะไรเหรอครับพี่”วิสถามเสียงหวาดๆนิดๆ
“คงรู้ล่ะนะมานี่เลยไอ้น้องบ้าอย่าคิดว่าข้าไม่รู้นะ”อัลวิสพูดด้วยน้ำเสียงทีเล่นทีจริงก่อนจะมีเสียงของวิสตามมาว่า
“อ๋าปล่อยผมนะครับพี่”ทำเอาวีรีบลุกแล้วแอบมองมาทันทีแต่ก็ไม่ทันได้เห็นอะไรก็ได้ยินเสียงของวิสดังขึ้นมาว่า“พี่คร้าบผมอาบเองได้นะคร้าบบบ”
“เอ๋”วีคิดขึ้นด้วยความตกใจก่อนจะรีบเดินไปเห็นประตูห้องน้ำสำหรับอาบน้ำแง้มอยู่พร้อมกับเสียงอัลวิสดังขึ้นว่า”ไม่ต้องมาลูกเล่นเลยถ้าพี่ไม่ทำอย่างงี้เจ้าคงวิ่งผ่านน้ำแหงๆที่ชอบเข้าไปทำงานในครัวก็เพราะเหตุนี้ใช่มั้ยไอ้น้องบ้า”ก่อนที่วีจะได้ทำอะไรต่ออัลวิสก็พูดต่อว่า”ให้ตายเถอะอายุขนาดนี้แล้วยังต้องให้ข้ามาอาบน้ำให้เหมือนตอนเด็กอีก”
วีที่ได้ยินกำลังพยายามตัดสินใจว่าจะทำยังไงเป็นสงครามของศีลธรรมกับความอยากรู้อยากเห็นในหัวของวีอย่างบ้าคลั่ง ตัวความอยากรู้นั้นชนะและยุวีว่า”ไปดูเลยแบบนี้มันน่าสงสัยนะวีข้ารู้ลึกๆในใจเจ้าก็อยากดูใช่มั้ยล่ะ”
“ตะ....แต่ถ้าอย่างงั้น ข้าพเจ้าขอโทษนะอัลวิส”พอวีแอบดูก็ถอยกลับมาทันทีด้วยใบหน้าทีแดงซ่านยิ่งกว่ามะเขือเทศ
“พี่คร้าบผมบอกว่าผมอาบเองได้ไงคร้าบ”วิสที่อยู่ในชุดนุ่งผ้าเช็ดตัวนั่งอยู่บนเก้าอี้เตี้ยๆสำหรับอาบน้ำโวยวายใส่พี่ของตนซึ่งกำลังสระผมให้อยู่ด้วยใบหน้าแดงซ่าน
“เอาน่า อยู่เฉยเดี๋ยวเดียวก็เสร็จแล้ว”อัลวิสในชุดกางเกงว่ายน้ำที่กำลังสระหัวให้พูดออกมาพร้อมรอยยิ้ม
“แต่ผมไม่ใช่เด็กๆแล้วนะครับ”วิสยังโวยไม่เลิกส่วนวีที่เผ่นกลับที่เตียงได้ยินการสนทนาของสองพี่น้องแบบชัดเจนมากก็หน้าแดงยิ่งกว่าเดิม
“งั้นวันนี้เจ้าเป็นเด็กสักวันและกัน”อัลวิสพูดก่อนจะล้างหัวให้วิส
“เอ้าแต่งตัวซะจะได้นอนข้าต้องตื่นเช้า”อัลวิสพูดหลังจากนั้นทั้งสองก็เปลี่ยนเป็นชุดนอนของตนโดยไม่ได้รู้ว่าวีแกล้งหลับอยู่
“เอาล่ะนอนได้แล้ว”อัลวิสพูดก่อนจะทิ้งตัวลงนอนแต่ก็ต้องตกใจที่วิสกระโดดกอดตนไว้
“ทำอะไรน่ะวิส ถ้าวีเห็นเข้าจะคิดยังไง”อัลวิสพูดด้วยใบหน้าแดงซ่าน
“พี่วีน่ะหลับไปแล้วล่ะครับ ก็พี่บอกให้ผมเป็นเด็กนี่ครับ ขออ้อนพี่แบบเด็กๆไม่ได้เหรอครับ”วิสพูดก่อนจะเอาหัวไปคลอเคลียกับหน้าอกของอัลวิส
“ตามใจ”อัลวิสพูดก่อนตะคิดในใจว่า”ข้านี่โง่ขนาดขุดหลุมฝังตัวเองเลยรึเนี่ย”
ส่วนวีที่แอบมองอยู่ก็ยิ้มออกมาแล้วหลับตาเพื่อนอนหลับไป
เช้าวันรุ่งขึ้นที่บ้านของคาทาสใกล้โบสถ์
“นี่ข้า....”ร่างนั้นที่พึ่งตื่นสำรวจตัวเองแต่ว่า
“พี่คะอย่าพึ่งขยับสิคะ”เทียร์วิ่งเข้ามาเมื่อเห็นหางเจ็บกำลังขยับตัวโดยไม่สนใจบาดแผล
“เธอช่วยชั้นไว้เหรอ”ร่างนั้นถามด้วยใบหน้าตายด้านน้ำเสียงโมโนโทน
“ค่ะพี่บาดเจ็บมากเลยนะคะ อย่าพึ่งขยับสิคะ”เทียร์วิ่งเข้าไปห้ามร่างที่ยังไม่หยุดการเคลื่อนไหว
“ดีแล้วล่ะหางอย่างข้าตายไปได้ก็ดี....”ร่างนั้นพูดต่อแต่ก็ถูกเทียร์ต่อว่าพร้อมดันร่างให้ไปอยู่ในท่ากึ่งนั่งกึ่งนอนอีกครั้งว่า
“พี่ไม่รู้ความหมายของชีวิตเหรอคะ ชีวิตน่ะเป็นสิ่งล้ำค่าที่พระเจ้าประทานมาให้นะคะ”เทียร์พูดทำให้ร่างนั้นเลิกคิ้วด้วยความไม่เข้าใจ
“ความหมายของชีวิตงั้นเหรอ”ร่างนั้นพึมพำด้วยใบหน้าตกใจ
“ใช่แล้วล่ะค่ะ ความหมายของชีวิตคือการอยู่เพื่อสิ่งสำคัญไงคะ พี่ไม่เคยเหรอคะที่ทำสิ่งใดสุดๆเพื่อใครสักตัวน่ะ”เทียร์พูดก่อนจะทำหน้าสงสัย เพราะเห็นร่างตรงหน้าช็อคตาค้างเหมือนหางที่ถูกพูดอะไรจี้จุดเข้า
“จริงด้วยสินะ แต่ว่าข้าได้สูญเสียมันไปแล้วล่ะสิ่งนั้นน่ะ”ร่างนั้นพูดเสียงเศร้า
“งั้นตัวสำคัญของพี่ที่เสียไป ก็ไม่อยากให้พี่ปรารถนาความตายหรอก เขาต้องอยากให้พี่มีชีวิตอยู่ต่อไป ไม่ใช่เหรอคะ”เทียร์พูดต่ออย่างไม่ยอมแพ้แต่คำพูดนั้นทำให้ร่างที่อยู่บนเตียงชะงักไปอีกครั้งก่อนจะนึกถึงคำสุดท้ายที่แม่พูดกับตนว่า”ขอให้ลูกมีชีวิตอยู่ต่อไปนะ...”
“แต่ข้าก็ไม่มีที่ไปแล้วนี่”ร่างนั้นพูดเสียงเศร้าอีกครั้ง
“งั้นอยู่กับหนูที่นี่สิคะ”เทียร์พูดก่อนจะยิ้มให้
“ข้า....อยู่ที่นี่ได้อย่างงั้นเหรอ”ร่างนั้นถามด้วยใบหน้าตกใจ
“ได้สิคะแล้วพี่ชื่ออะไรเหรอคะ”เทียร์ถามก่อนจะยิ้มอีกครั้ง
“ข้าชื่ออีคารอส”ร่างนั้นตอบพร้อมรอยยิ้มที่ปรากฏเพียงพริบตาก่อนจะกลับเป็นใบหน้าไร้อารมย์เช่นเดิม