ห่างหายไปนาน กลับมาแต่งต่อแล้วค่าาา
ว่าจะแต่งยาวแต่เริ่มขี้เกียจ = x =;;
บทที่ 76 ปะทะศึก!! (ตอนต้น)Code:
"จักรวาลเอ๋ย.....
จักรวาลอันสดใสด้วยประกายแสงแห่งดวงดาว จักรวาลอันมืดมิดด้วยผืนน้ำอันธกาล
ฤๅ อัคคีแลเปลวไฟอันร้อนแรงจะเยือกเย็น คิมหันต์ห้าแยกผู้โบกสะบัดจะเหี่ยวเฉา...
ฤๅ ธารน้ำแลคงคาที่เชี่ยวกรากจะมอดไหม้ ด้วยฤทธาแห่งแขนอันใกล้ไกลที่สุดมาประจบ...
ฤๅ พสุธาอันแข็งแกร่งแลรุกขเทพธิดาจะสั่นเทา มรณาด้วยนาคาจำแลง...
ฤๅ พระพายจะโหมกระหน่ำ วายุผู้เคียดแค้น จักทำลายนัยเนตรอันแสนอ่อนหวาน...
ฤา สุริยันดวงโตอันเจิดจ้าแลเปล่งประกายจะถูกกลืนกิน คนคุกแห่งก้นบึ้งอันมืดมิดจะโห่ร้อง...
ฤา ผืนฟ้าอันธกาลจักอันตรธาน คคนานต์แห่งรัตติกาลที่ถูกครอบใส่โหลแก้วแห่งพยาบาทจะหลับไหลไปชั่วนาน...
จักรวาลเอ๋ย...
จงตัดขาดมันเสีย ล้างผลาญผู้นำหายนะมาสู่เรา
โลหิตสีแดงฉานแห่งบาปจงโอบล้อมแก่ใจผู้ปฏิปักษ์ต่อบริสุทธิ์แห่งเรา
นำคอของมันเพื่อบูชายัญ เทิดไท้เทิดทูนแก่จักรวาลอันว่างเปล่าที่อัดแน่น
นิรันดร...."
ฉัวะ!
สิ้นเสียงนั้น วัตถุทรงกลมกลิ้งหลุนๆ มาหยุดอยู่ที่ปลายเท้าของเด็กสาว สายน้ำสีเข้มข้นหลั่งไหลไปทั่วบริเวณ เลื้อยไต่จนย้อมสีแดงไปทั่วทุกที่ เสียงหัวเราะอันกึกก้องน่าสยดสยองดังต่อเนื่องไม่มีทีท่าว่าจะหยุด เด้กหญิงผู้เปรอะเปื้อนด้วยเลือดหยิบสิ่งที่กองอยู่ข้นมาดู มันร้อนอุ่นๆ ราวกับมีชีวิต สิ่งนั้นมีเส้นขนสีเหลืองทองหนาพอตัว แน่นอนว่ามันไม่ใช่สีทองที่สวยอีกแล้วเมื่อเปื้อนเลือด
มันคือหัวนั่นเอง....
และ หัวที่เธอเห็นคือใบหน้าของเด็กหญิงที่เรียบเฉยไม่แสดงอารมณ์ใดๆ นัยน์ตาเม็ดอำพันสวยจ้องตรงมาที่เธอเช่นกัน ดวงตาอันเฉยชาจ้องมองเธอด้วยสายตาเยือกเย็น เด็กหญิงรู้สึกว่าตัวเองรู้สึกกลัวสายตานั้นขึ้นมาจับใจ ราวกับร่างกายเล็กๆ นี้จะสลายไปในพริบตา
เด็กสาวยืนนิ่ง ลดแขนลงไว้ข้างตัว แล้วปล่อยหัวนั้นหล่นลงพื้น....
หัวของเธอ....
เสือน้อยนอนกลิ้งตัวไปมาอยู่บนเตียง ภาพความฝันนั้นยังแจ่มชัด สัมผัสเย็นเฉียบเสียวคอเป็นยิ่งนัก มือเล็กๆ ยกขึ้นคลำหาลำคอเรียวอย่างหวาดๆ ว่ามันจะไม่เชื่อมต่อกันจริงๆ แต่เธอคิดไปเอง....
เสียงเปิดประตูไม้ดังขึ้นเบาๆ ร่างของเสือสาวร่างผอมสูงเดินเข้ามาในห้อง พร้อมกับลูบหัวเธออย่างอ่อนโยนเพื่อปลอบประโลม "ฝันเรื่องนั้นอีกแล้วหรอเร็น"
"ค่ะแม่"
"จำไว้...นั่นเป็นชะตาลิขิตของเจ้า เป็นภาระที่เจ้าต้องแบกรับมันเอาไว้"แม่ของเร็นพูดด้วยเสียงหนักแน่น
ภาระที่แม่ทิ้งให้มากกว่า........เสือน้อยคิดในใจ
"แม่คะ...."เร็นหันไปมองใบหน้าอันซีดเซียวของผู้เป็นแม่ "ความฝันที่เกิดขึ้นนี่ เป็นเพราะคำสาปจากรหัสลับหรอคะ เพราะว่าสิ่งนี้อยู่กับหนูสินะ...."จ้องลึกเข้าไปในดวงตาของแม่ เร็นเห็นประกายของนัยน์ตาสีอำพันแวววับอยู่ในนั้น อำพันที่น่าหลงใหลและน่าเกลียดชังนั่น
"ใช่....คำสาปจากรหัสลับนิรันดร์..."แม่ตอบ "เจ้าต้องแก้รหัสลับให้ได้ แล้วเอามันไปคืนในที่ๆ มันควรอยู่ ยิ่งปล่อยไว้นานเท่าไหร่ มันจะยิ่งอาละวาดมากขึ้น"
ทั้งสองอยู่ในความเงียบสงบ มีเพียงเสียงของลมและใบไม้เสียดสีกันดังแกรกๆ ทำลายความเงียบที่น่าอึดอัด เสือน้อยรู้ดีว่าแม่แสนขลาดและขี้กลัวขนาดไหน ถึงยอมแม้แต่จะฆ่าลูกตัวเองเพื่อทำให้มันสงบลงก็ทำได้ ธาตุพิสุทธิ์แห่งลมที่พ่อฝากฝังเอาไว้นั้น แม่กลัวคำสาปแห่งนิรันดรมากจนควักตาเธอออก แล้วใส่ธาตุพิสุทธิ์เข้าไปให้แทน เพื่อให้ตรงกับรหัสลับที่จารึกอยู่ให้มากที่สุด แม่แทบจะเป็นบ้าเพราะฝันร้ายนั้นตามหลอกหลอน จนถึงกับเป็นโรคประสาทอ่อนๆ ความจำเลอะเลือน จำไม่ได้เลยว่ามือคู่นั้นที่โอบกอดและลูบหัวเธออย่างแผ่วเบา เป็นมือคู่เดียวกับที่คว้าอิโต้จะสับคอเล็กๆ ของเธอให้ขาดเป็นสองท่อน และเป็นมือที่กรีดเอาลูกตาสีอำพันสวยของเธอไป พร้อมกับใส่ธาตุพิสุทธิ์เข้ามาแทน
แต่ใช่ว่าเธอจะโกรธหรือเคียดแค้นแม่ ความฝันและคำสาปที่คอยรังควาญทั้งคู่ เร็นเองก็เกือบจะเป็นบ้าไปแล้วหากจิตใจของเธอไม่เข้มแข็งพอ ความเจ็บปวดจากการโดนกรีดสดๆ ยังตราตรึงแน่นอยู่ในความทรงจำไม่หายไปไหน ครานั้นเจ็บจนร่างกายชักกระตุกไม่เป็นจังหวะ เจ็บจนไม่อาจเปล่งเสียงร้องออกมาได้ นิ้วผอมๆ แทงเข้ามาในเบ้าตา ตวัดงุ้มแล้วกระชากวัตถุทรงกลมออกไป เลือดกระเซ็นออกมาเป็นทางยาวกระจายทั่วพื้นห้อง คราวนี้ลูกบอลกลมๆ สีอำพันประกายถูกยัดเข้ามาแทนที่ เสียงหวีดร้องดังก้อง เบ้าตากลมโตกระตุกอย่างบ้าคลั่งราวกับมันจะถูกฉีกออกอย่างไม่มีชิ้นดี เลือดไหลท่วมชุดสีขาวจนย้อมเป็นสีแดงดำ ตากลมนั้นส่องประกายแล้วดับวูบลง เป็นนัยน์ตาสีอำพันปกติ ที่ดูมีประกายแวววาวอย่างน่าประหลาด
เร็นสะดุ้งตื่นอีกครั้ง คราวนี้เธอไม่ได้นอนที่บ้านอีกต่อไป ไม่ใช่เด็กอีกต่อไป ร่างบางทอดกายอยู่ในห้องสี่เหลี่ยมเล็กๆ ประจันหน้ากับเงาของค้างคาวตัวหนึ่ง มันหัวเราะหึๆ อย่างพอใจก่อนถามขึ้นอย่างตื่นเต้น "ทัวร์ความฝันสนุกมั้ย สาวน้อย"
"นายคือ..."
"เราคือนิรันดร..."ค้างคาวตัวนั้นพูด "ไม่ผิดไปจากที่เจ้าคิดหรอก...ว่าแต่ไขรหัสลับได้หรือยังล่ะ"
"ได้แล้ว..."เร็นตอบ "คาดหวังอะไรกับตัวชั้นเกินไปรึเปล่า นิรันดร...ชั้นจะไม่เดินตามเกมของนายแน่"
เขาแค่นหัวเราะ "พูดแบบนี้แปลว่ารู้แล้วสินะ ทั้งความหมายของรหัสลับ ที่ซ่อนของธาตุพิสุทธิ์ และเหตุผลของเรา"
เร็นสำรวจรอบตัว ไม่มีทางออก ไร้อาวุธต่อสู้ เธอในตอนนี้ไม่อาจกำจัดเขาทิ้งได้แน่
"ใช่แล้ว สาวน้อยของเรา เราผู้เป็นอมตะแลนิรันดร มิอาจถูกสังหารได้หรอก"เขาพูดราวกับอ่านใจของเธอออก
"ความหมายของรหัสลับน่ะ
ฤๅ อัคคีแลเปลวไฟอันร้อนแรงจะเยือกเย็น คิมหันต์ห้าแยกผู้โบกสะบัดจะเหี่ยวเฉา...
คิมหันต์ห้าแยก คือใบเมเปิ้ล 5 แยก ที่สลักอยู่บนกำแพงของสถานพิทักษ์ เมื่อถูกความร้อนมันจะเหี่ยวแห้ง นั่นคือวิธีเอากุญแจ
ฤๅ ธารน้ำแลคงคาที่เชี่ยวกรากจะมอดไหม้ ด้วยฤทธาแห่งแขนอันใกล้ไกลที่สุดมาประจบ...
แขนอันใกล้ไกลมีที่มาจากความอ่อนโยนและโอนอ่อน สิ่งที่โอนอ่อนไปตามกระแสน้ำมาบรรจบเข้าด้วยกัน ที่แห่งนั้นมีความหมายเดียวกับชื่อของเทพน้ำ แอมเนโมเน่ นั่นคือดอกไม้ทะเลนั่นเอง
ฤๅ พสุธาอันแข็งแกร่งแลรุกขเทพธิดาจะสั่นเทา มรณาด้วยนาคาจำแลง...
นาคาจำแลงมีที่มาจากประวัติศาสตร์ของเทพดิน พญานาคสองตัวผู้ใฝ่หาความเป็นใหญ่ได้สู้กันที่ผืนดินแถบนั้น จนนาคตัวหนึ่งต้องพ่ายแพ้เพราะพิษตัวเอง การสู้ด้วยพิษที่ไม่ใช่ของตนจึงเรียกว่านาคาจำแลง
ฤๅ พระพายจะโหมกระหน่ำ วายุผู้เคียดแค้น จักทำลายนัยเนตรอันแสนอ่อนหวาน...
มีที่มาจากเหตุการณ์แห่งฟิลฟี เจ้าหญิงเมืองทะเลทราย ที่โกรธแค้นที่ถูกควักเอานัยน์ตาคู่สวยไป จึงทำลายทุกสิ่งอย่างราบเป็นหน้ากลอง การเปิดวงกตก็เช่นกัน ดวงตาที่ถูกทำลายเป็นสื่อชักนำให้เกิดความโกรธแค้น ความโกรธแค้นที่โหมกระหน่ำเหมือนกับพายุที่ถาโถม
ฤา สุริยันดวงโตอันเจิดจ้าแลเปล่งประกายจะถูกกลืนกิน คนคุกแห่งก้นบึ้งอันมืดมิดจะโห่ร้อง...
คนคุกแห่งก้นบึ้งอันมืดมิดจะโห่ร้อง ที่โห่ร้องเพราะได้รับแสงสว่าง แปลว่าต้องหาแสงสว่างให้เขา แต่แสงสว่างที่เขาต้องการคืออะไร ก็สืบเนื่องมาจากประวัติศาสตร์ของเมืองแห่งแสงอีก
ฤา ผืนฟ้าอันธกาลจักอันตรธาน คคนานต์แห่งรัตติกาลที่ถูกครอบใส่โหลแก้วแห่งพยาบาทจะหลับไหลไปชั่วนาน...
ความมืดที่หลับไหล คือการที่ไม่มีแสงสว่าง เพราะความมืดหมายถึงความนิ่งสงบและการดับ ดังนั้นต้องทำให้ทุกสิ่งสูญ ส่วนเหตุของโหลแก้วแห่งพยาบาท มาจากตัวนายเอง...
ที่ชั้นคิดมา ถูกต้องสินะ"
เสียงปรบมือดังขึ้นก้อง "ถูกแล้ว ไม่ผิดที่เราเลือกเจ้าให้ทำงานนี้"
"ถ้างั้น สิ่งที่นายต้องการคงไม่เป็นความจริงแล้วละ"เร็นยิ้มเย็น "เพราะชั้นรู้ทุกอย่างที่นายต้องการ รู้ทุกการกระทำของนายแล้ว"
"ใช่แล้วหญิงของเรา"นิรันดรพูดเอื่อย "เราถึงได้ส่งหมากให้ช่วยสานต่อยังไงล่ะ"
"ผู้ครอบครองนิรันดร์?!!!"
"หากรู้ถึงเพียงนั้นแล้ว จงไปทำความปรารถนาเราให้เป็นจริงเสียทีเถิด"
แสงสว่างวาบ เสือสาวรู้สึกตัวเองกำลังถูกดูดกลับออกไปยังที่ใดซักแห่ง เธอจ้องมองค้างคาวตัวนั้นอย่างโกรธแค้น
"แกไม่คู่ควรจะเป็นนิรันดรหรอก และจะไม่มีวันได้เป็นแน่!!"
มีเพียงรอยยิ้มของนิรันดรเป็นคำตอบ ก่อนทุกอย่างจะเป็นสีขาวโพลน....เรย์ลุกขึ้นจากที่นอนในถ้ำกลางทุ่งหิมะ ใกล้กับภูเขาไฟของเทพมูราดิน มองไปยังผู้เดินทางทั้งสองที่นอนหลับอยู่ข้างหน้า มังกรสีแดงตัวใหญ่และฮัสกี้ขนสีขาวสะอาดกำลังนอนสบายไม่รู้เรื่อง เรย์ถอนหายใจพลางจะพลิกตัวนอนต่อ แต่พลันได้ยินเสียงประหลาดเข้ามาใกล้ขึ้นเรื่อยๆ ดาวกระจายถูกเรียกมาไว้ในมือเรียบร้อย
"ได้ยินเสียงกันสินะ..."ฮัสกี้ชักปืนคู่ใจทั้งสองขึ้นมาเตรียมพร้อม ส่วนเรดก็ตื่นแล้วกำลังเดินออกไปนอกถ้ำ ทุกตัวรีบอพยพของออกมาเพราะถ้าสู้อยู่ในถ้ำจะเสียเปรียบ เงาของตัวอะไรบางอย่างโฉบจากบนฟ้าพุ่งลงมาทางที่ทั้งสามยืนอยู่ พลังลมบางๆ ตวัดเป็นทางยาวพุ่งเข้าปะทะด้วยความเร็วสูง เรดสูดลมแล้วพ่นม่านไฟออกมากัน ฮัสกี้อ้อมหลังไปแล้วปลดล็อคปืน รัวกระสุนดังปังๆ ใส่ร่างที่บินอยู่บนฟ้า ทว่าผ้าคลุมของมันกลับตวัดขึ้นลงตบกระสุนกลับลงมาด้วยความเร็ว ฮัสกี้รีบหลบอุตลุด เงานั้นแยกร่างเป็น 3 ร่างพุ่งลงมาจัดการทีละตัวด้วยความเร็วสูง เรเปียสีดำปลอดปะทะเข้ากับกรงเล็บใหญ่ ปืน และคาตานะพร้อมๆ กัน!!
"ค้างคาวเรอะ?!!"เรดสบถ
ค้างคาวตัวนั้นตวัดเรเปียอย่างว่องไว ชำนาญ และทรงพลัง แถมปลายเสื้อคลุมยังสามารถพันริ้วควงสว่านเข้ามาโจมตีได้อย่างอิสระ พลังลมพุ่งกระทบเข้าเต็มแรง เสียงฉัวะของเสื้อผ้าที่ขาดกระจุยกระจายดังขึ้น ร่างแยกทั้งสองตัวที่สู้กับเรดและฮัสกี้หายวับ ทั้งคู่หันมามองเรย์ ที่ยืนนิ่ง ฮากามะสีฟ้าขาวและผ้าพันแผลขาดวิ่นเผยให้เห็นส่วนเว้านูนของสัดส่วนอย่างเพศแม่
"ผ..ผู้...หญิง...."ทั้งเรดและฮัสกี้อ้าปากค้าง
"เร็นสินะ"ค้างคาวตัวนั้นถาม "ชั้นชื่อโทเลม เป็นเพื่อนกับเรย์ อยากจะขอความร่วมมือกับเธอหน่อย"
"เดี๋ยวสิๆๆๆๆ"เรดเลิกลั่ก "ทำไมเรย์ถึงเป็นเร็น...ทำไม เอ่อ..."
"ที่เธอต้องปลอมตัว เพราะเสี่ยงว่าถ้าออกเดินทางในฐานะเร็นจะถูกองค์กรของเราจับตามอง แถมถ้าเป็นเรย์ก็จะสามารถไปสำรวจที่เมืองต่างๆ เพื่อแก้ไขปริศนาได้สะดวกสินะ เพราะเราเองก็กำลังไขรหัสลับนั้นอยู่ ถึงเรย์จะเข้าไปสำรวจ ก็จะไม่ถูกสงสัย"
"เร็น..."ฮัสกี้เรียกเบาๆ
เสือสาวเรียกลมสลัดเครื่องปลอมตัวของตนออก ทั้งชุดฮากามะ วิก และผ้าพันแผล เหลือเพียงร่างบางของเสือสาวนัยน์ตาสีอำพันประกาย ผมสีทองลายดำสวย ในชุดของคุโนอิจิ(นินจาหญิง) ปีกสีเขียวมรกตสยายออกอย่างสวยงามจนน่าหลงใหล เร็นขบฟันลงบนริมฝีปากตัวเองจนเลือดโชกเพื่อคลายจากอาการชาก่อนเอ่ย
"ถ้าอยากจะรู้ความจริง สัตว์แห่งกิลด์ และผู้ครอบครองนิรันดร์ ก็จงไปพบกันที่สถานพิทักษ์ในหมู่บ้านลับแล"
ยังไม่ทันที่ใครจะตั้งตัว ปีกมรกตก็ถูกลมโอบอุ้ม พัดพาร่างบางของเร็นหายไปกับสายลมแห่งความว่างเปล่า...ฮากกกกกกกกกก จบ เหนื่อย
ลาสบอสออกแล้วค่ะ ในที่สุด = w =;;