ตอนที่ 7งานเลี้ยงของสานสัมพันธ์เทพทั้ง 6ความลับของอัลวิส
เช้าวันรุ่งขึ้น
“ลีโอมีจดหมายถึงนายน่ะ”เชียร์พูดก่อนที่จะหยิบจดหมายในตู้มาให้กิ้งก่าสีแดงที่ขณะนี้กำลังกินข้าวอย่างเอาเป็นเอาตาย
“หดหายฮันไฮเหอ(จดหมายอะไรเหรอ)”ลีโอพูดทั้งๆที่กำลังกินขนมปังที่เชียร์อบให้กินคู่กับนม
“กินให้เสร็จก่อนแล้วค่อยพูดก็ได้”เชียร์พูดก่อนจะมีเสียงชมเชยมาจากซอรัสและวิสที่พึ่งกินขนมปังของเชียร์ว่า
“ไม่คิดว่านาย/เชียร์จะทำอาหารอร่อยขนาดนี้”
“นี่มันจดหมายเชิญงานเลี้ยงสานสัมพันธ์ของเทพทั้ง 6นี่นาสั่งให้พาเนตรอินทรีอัลวิสไปด้วยนะ”เชียร์อ่านจดหมายพลางกระตุกยิ้มที่มุมปาก
“นายรู้จักเนตรอินทรีอัลวิสด้วยเหรอ”ลีโอกับซอรัสถามด้วยสีหน้างงเพราะสำหรับพวกเขาแล้วเป็นคนที่อยากพบที่สุด
“ก็ไอ้คนที่กำลังแกล้งเด็กอยู่ตรงนั้นไง เนตรอินทรีอัลวิส”เชียร์พูดพลางชี้ไปยังวิสที่กำลังขยี้หัวคิโน๊ะอยู่อย่างเมามัน
“หา!”กิ้งก่าทั้งสองอ้าปากค้างก่อนจะหันไปมองวิสที่กำลังอุ้มคิโน๊ะโยนเล่นเหมือนเด็กๆ
“นะ....นี่ข้า/เราอยู่กับเนตรอินทรีอัลวิสเองเหรอเนี่ย”กิ้งก่าสองตัวอุทานออกมาพร้อมกัน
“เอาล่ะงั้นเราแต่งตัวเตรียมไปงานเลี้ยงกันเลย”เชียร์พูดก่อนจะเดินขึ้นไปที่ห้องนอนเพื่อเปลี่ยนชุดแต่วิสกลับแทรกขึ้นมาว่า
“ข้าขออยู่ที่นี่นะเชียร์”วิสพูดด้วยใบหน้าที่ปรากฏแววตาหวาดกลัวเล็กน้อย
“วิสคอนแทคเลนส์นายแตกไปแล้วใช่มั้ย”เชียร์หันกลับมาถาม
“อะ...อือ”วิสตอบเสียงอ่อย
“คุยเรื่องอะไรกันเหรอ”กิ้งก่าทั้งสองถามขึ้นมา
“ชื่อเสียงของวิสที่นายได้ยินมาแบบไหนล่ะ”แทนที่จะตอบเชียร์หันกลับไปถามกิ้งก่าสองตัวแทน
“เอ่อเป็นก่าปริศนาที่ปรากฏตัวขึ้นกลางสนามรบแล้วจัดการกับผู้เป็นศัตรูของเหล่าสัตว์หางแล้วจากไปอย่างเงียบงัน"กิ้งก่าทั้งสองตอบพร้อมกัน
“ใช่ไอ้หมอนี่ฆ่ามามากกว่าพันตัวแล้วล่ะ แล้วรู้มั้ยว่าทำไมถึงหายไปอย่างเงียบงัน”เชียร์ถามขณะที่วิสก้มหน้างุดลงไปเรียบร้อยแล้ว
“ทำไมเหรอ”กิ้งก่าสองตัวถามด้วยความบื้อส่วนบุคคล
“ไอ้พวกบื้อวิสน่ะเป็นพวกกลัวการอยู่ในที่ๆมีคนมากๆไงล่ะเอาเถอะคิดให้ดีๆและกันข้าไปรอที่งานก่อนนะ”เชียร์พูดก่อนจะเดินขึ้นไปข้างบนเพื่อเปลี่ยนชุด
“คอนแทคแตกไปแล้ววิสไม่กล้าไปหรอก”วิสพูดกับตัวเองด้วยความกลัวน้ำตาแห่งความกลัวไหลเต็มใบหน้า
“ทำไมคอนแทคเลนส์นั่นมันมีอะไรเหรอ”กิ้งก่าทั้งสองถาม
“เวลาวิสใส่คอนแทคเลนส์ วิสจะเห็นแค่สิ่งที่วิสอยากจะเห็นเท่านั้นที่เหลือจะมองไม่เห็น วิสจึงสามารถอยู่ท่ามกลางผู้คนได้”วิส
ตอบ
พลางหันไปมองเชียร์ที่ลงมาในเสือคลุมอาบน้ำเดินลงมาพร้อมกับคิโน๊ะที่อยู่ในชุดนุ่งผ้าเช็ดตัวกำลังเดินไปหลังบ้าน
“นายจะไหนน่ะ”กิ้งก่าสามตัวถาม
“พาเจ้าหนูนี่ไปอาบน้ำไหนๆก็จะไปงานที่ทรงเกียรติน่ะ”เชียร์พูดพลางลากคิโน๊ะที่โวยวายว่า “ไม่อยากอาบน้ำท่าเดียว”
“อานี่แหละสวรรค์ล่ะ”เชียร์พูดหลังจากทิ้งเสื้อคลุมอาบน้ำไว้บนแคร่ต้อนนี้กำลังแช่น้ำอย่างสบายใจ
“น้ำอุ่นดีจังฮะพี่เชียร์”คิโน๊ะพูดด้วยรอยยิ้มน่ารักขณะที่กำลังเล่นน้ำอยู่อย่างสนุกสนาน
“อืม”เชียร์ตอบด้วยรอยยิ้มที่อ่อนโยน
“เออพี่มีน้องชายอายุเท่าๆกับคิโน๊ะด้วย เดี๋ยวไปที่งานพี่จะแนะนำให้รู้จักนะ”เชียร์พูดยิ้มๆก่อนจะขยี้ผมคิโน๊ะอย่าเมามัน
“ครับ”คิโน๊ะรับคำก่อนจะเล่นน้ำสักพักก่อนทั้งสองจะขึ้นไปแต่งตัว
หลังจากแต่งตัวกันเรียบร้อยแล้ว
“เชียร์นายแต่งชุดอย่างกับเจ้าชายเลยนะ”ซอรัสซึ่งอยู่ในชุดสเลเยอร์ระดับสูงเหน็บแนมเชียร์ที่ตอนนี้แต่งชุดราวกับราชนิกุลเต็มยศ
“วิสนายจะใส่เสื้อคลุมนั่นเหรอชั้นคิดว่ามันเล็กไปนะ”ลีโอที่ในตอนนี้ใส่ชุดคลุมสีดำกางเกงขายาวเป็นชุดเครื่องแบบของหน่วยShadow knightท้วงวิสที่เอาเสื้อคลุมสีดำที่มีลวดลายประหลาดๆขึ้นมาสวมซึ่งมันเล็กเหมือนของเด็กสิบขวบ
“ไม่เป็นไรเราใส่ได้”วิสตอบยิ้มๆเพราะนั่นคือชุดที่เชียร์ถักให้สวมตอนเด็กๆจึงอยากจะใส่มันตลอดเวลา
“งั้นผมไปด้วยนะ”ไวซ์ลุกขึ้นหลังจากที่นั่งอ่านหนังสือมานานก่อนจะเปลี่ยนเป็นชุดเป็นชุดนักเวทย์สีน้ำเงินขลิบทอง
“อืมตามใจ”เชียร์พูดก่อนจะเดินออกไปข้างนอกเพื่อไปงานเลี้ยงซึ่งจัดในสวนเมืองแสง
“เย้ถึงแล้วดูสิๆ”คิโน๊ะร้องออกมาก่อนจะวิ่งไปในงานที่งดงามที่สุดเท่าที่เคยมีมา
“อ้าวคิโน๊ะมานี่ก่อน”เชียร์พูดพลางกวักมือเรียกคิโน๊ะที่กำลังจะดินออกไปเที่ยวงาน
“พี่เชียร์ คร้าบบบบบ”ร่างของหมาป่าตัวเล็กขนสีขาวแซมทองอายุประมาณ 6 ขวบในชุดพลาดินเริ่มต้นกระโดดมากอดเชียร์ในทันที
“ยังขี้อ้อนไม่เปลี่ยนเลยนะเซียร์”เชียร์พูดพลางอุุ้มหมาป่าน้อยวางลงพื้นก่อนจะเริ่มแนะนำเซียร์ให้เพื่อนของเขารู้จัก
“นีเซียร์เป็นน้องชายแท้ๆของข้าเอง เจ้าหนูเนี่ยชอบอ้อนคนอื่นเป็นประจำเลย”
“นายมีน้องชายก็ไม่ยอมบอกเลยเนาะไอ้คุณเชียร์”ซอรัสจัดการด่าไปอีกรอบ
“เอ่อขอโทษๆนี่พี่ซอรัสกับพี่ไวซ์ส่วนไอ้นี่ชื่อลีโอ...”เชียร์แนะนำไม่ทันจบร่างเล็กๆของเซียร์ก็โผเข้ากอดลีโอทันทีก่อนจะเข้าไปคลอเคลียทำให้ลีโอหน้าแดงสุดขีดก่อนประสาทสัมพัสเริ่มเลือนรางก่อนจะช็อคเป็นลมไปทันที
“ลีโอ!”ทั้งสี่ตัวได้แก่เชียร์ วิส ซอรัสและก็ไวซ์ตกใจทันที่ที่เห็นพื่อน/พี่ของพวกตนล้มลงไปด้วยใบหน้าแดงสุดขีด
“เดี๋ยวข้าแบกลีโอไปพักเอง พวกนายเที่ยวงานเถอะ”เชียร์หิ้วลีโอขึ้นบ่าก่อนจะวิ่งหายไปในทันที
“เอาเถอะงั้นไปเที่ยวงานกันเลย”ซอรัสพูดก่อนจะหยิบแผนที่งานขึ้นมาเปิดดู
งานแบ่งเป็น 6โซนๆแรกงานเลี้ยงอาหารกินฟรีไม่อั้น(ย้ำว่าฟรีไม่อั้น)โดยเทพแสงอัลคาเซีย
โซนที่สองลานประลองกำลังโดยเทพไฟมุราดิน
โซนที่สามโซนเครื่องเล่นสายลมโดยเทพลมซันซัน
โซนที่สี่อุโมงพฤกษาโดยเทพดินบาร์เบร็อค
โซนที่ห้านิทรรศการเวทมนต์วารีโดยเทพน้ำแอนเนโมเน่
โซนที่หกนิทรรศการเวทมนต์สายความมืดโดยเทพเงาเซร่า
หน้าโรงแรมของหมีมิมิ
“แฮ่กๆๆ แบกไปวิ่งไปนี่เหนื่อยชะมัด แฮ่กๆ”เชียร์หอบหนักๆอยู่ที่หน้าเคาท์เตอร์หลังจากหิ้วลีโอวิ่งมาด้วยความเร็วที่สัตว์หางทั่วไปมองไม่ทันไม่งั้นได้โดนเข้าใจผิดแน่ๆ
“คุณเชียร์เกิดอะไรขึ้นคะ ดื่มเกลือแร่ก่อนไหมคะ ท่าทางคุณจะเหนื่อยมากเลยนะคะ”มิมิเข้ามาถามด้วยความเป็นห่วงเนื่องจากตอนนี้สภาพของเชียร์นั้นกำลังจะเป็นลมอยู่แล้ว
“ไม่เป็นไรแฮ่กๆ ครับขอห้องพิเศษสองตัวนะครับ ไม่มีเวลามาอธิบายไปละนะครับ”เชียร์พูดก่อนจะรับกุญแจจากมิมิแล้ววิ่งหายไปที่ชั้นสองของโรงแรมทันทีทิ้งให้มิมิอ้าปากค้างด้วยความช็อคอยู่ตัวเดียว
“เฮ้อเหนื่อยชะมัด”เชียร์บ่นหลังจากวางลีโอไว้ตรงโซฟาแล้วหอบหายใจด้วยความเหนื่อยอยู่ตัวเดียว
“แต่นี่เป็นสิ่งที่ข้าช่วยนายได้ข้าก็จะช่วย”เชียร์พร้อมยิ้มให้ลีโอที่เริ่มได้สติแล้ว
“ทะ...ที่นี่ที่ไหน”ลีโอตื่นขึ้นมาถามเชียร์ที่นั่งอยู่ตรงขอบเตียง
“โรงแรมของมิมินายสลบไป ข้าก็เลยแบกนายมา เอาล่ะนายจะพักก่อนก็ได้นะข้าจะอยู่เป็นเพื่อน”เชียร์ตอบยิ้มๆ
“ไม่เป็นไรข้าลุกไหว”ลีโอพูดพลางยันตัวลุกขึ้นจากโซฟาก่อนจะเดินเซๆไปที่ประตูแต่ถูกเชียร์คว้าแขนไว้ก่อน
“เอ้าขึ้นมาเราจะไปทางลัดกัน”เชียร์ก่อนที่จะลากลีโอมาวางไว้บนหลังก่อนจะกระโดดออกไปทางหน้าต่าง
“แย้กกกกกกกกกกกกกก”ลีโอร้องลั่นเพราะความเร็วที่เชียร์กระโดดนั้นไวพอกับการวาร์ปเลยทีเดียว
“เงียบหน่อยสิไอ้ก่าโชตะค่อน”เชียร์ต่อว่าลีโอเพราะถ้าทำเสียงดังแบบนี้ถ้าตัวอื่นมาเห็นเข้าเป็นเรื่องแน่ๆ
“กะ....ก่าโชตะค่อน”ลีโอถูกคำพูดต่อว่าของเชียร์แทงใจดำแบบเต็มๆจนเงียบไม่พูดอะไรเลยตลอดทาง
“เอ้าถึงแล้ว”เชียร์พูดก่อนที่ลีโอจะกระโดดลงจากหลังของเชียร์ทันที
“เอ่อ ข้าไปเข้าห้องน้ำก่อนนะนายเดินเที่ยวงานไปก่อนเลย”เชียร์ก่อนจะวิ่งหายไปโดยไม่ฟังคำตอบของเพื่องต่างสายพันธ์แม้แต่น้อย
“เอาเข้าไปไอ้เชียร์นี่น้า”ไม่เคยเปลี่ยนเลยแต่น้องมันนี่ชั่งน่ากลัวยิ่งนัก”ลีโอพึมพำอยู่ตัวเดียวก่อนจะต้องเกือบล้มเพราะถูชนโดยใครบางตัว
“ว้ายขอโทษค่ะ”ผู้ที่มาชนคือแกะอายุประมาณเขาสวมชุดราวกับองค์หญิงในราชวงค์ยุโรป
“ไม่เป็นอะไรครับแล้วทำไมคุณถึงรีบวิ่งอย่างงั้นล่ะครับ”ลีโอเพราะเล่นชนซะเขาเซแบบนี้ต้องมีอะไรแน่
“เอ่อคือชั้นถูกตามสะกดรอยน่ะค่ะ”ร่างนั้นพูดด้วยน้ำเสียงตื่นตกใจเล็กน้อย
“งั้นให้ผมเดินเที่ยวงานเป็นเพื่อนไหมครับคนร้ายไม่น่าจะกล้าตามมาน่ะครับ”ลีโอพูดก่อนจะหน้าแดงอีกครั้งเพราะพึ่งนึกได้ว่าประโยคเมื่อครู่นั่นมันเหมือนการจีบชอบกล
“ขอบคุณค่ะงั้นช่วยเป็นเพื่อนชั้นเดินเที่ยวงานทีนะคะชั้นชื่อซาฟี่ค่ะยินดีที่ได้รู้จักค่ะ”ร่างนั้นยิ้มด้วยรอยยิ้มที่งดงามราวกับเทพธิดา
“ผมชื่อลีโอยินดีได้รู้จักครับเอาล่ะไปเที่ยวที่ไหนก่อนดีล่ะครับซาฟี่”ลีโอแนะนำตัวก่อนถามยิ้มๆ
“ชั้นอยากไปดูอุโมงพฤกษาน่ะค่ะ”ซาฟี่ตอบอายๆ
“รับบัญชาขอรับองค์หญิง”ลีโอพูดยิ้มๆก่อนจะพาซาฟี่เดินเที่ยวงานต่อไป
อีกด้านในเงามืดขอสนามประลองปรากฎร่างของกิ้งก่าสีดำราวกับราตรีกาลดวงตาข้างซ้ายแดงราวกับดวงไฟสีเลือดที่ลุกโชตช่วงสวมเสื้อคลุมสีดำกางเกงสีแดงยืนอยู่
“เอาล่ะข้าขอไปสนุกล่ะนะ”ร่างนั้นกล่าวก่อนจะกระโดดไปกลางลานประลองซึ่งคู่ประลองคือไบสันแห่งหน่วยเบต้าราธ
“แกเป็นใครกัน”ไบสันคำรามใส่เพราะในใบประลองรอบนี้เขาต้องประลองกับเพนกวิ้นแห่งหน่วยอัลฟ่าแต่ไหงมันกลายเป็นกิ้งก่าตัวนี้ไปได้
“เพนกวิ้นนั่น มันโดนข้าเล่นงานไปแล้ว ข้าเลยมาแข่งแทนมันก็แค่นั้นเอง”ร่างนั้นตอบแบบไม่ใส่ใจเท่าไหร่
“หนอยแก”ราธพุ่งเข้าโจมตีทันทีด้วยขวานเล่มยักษ์หวดลงมาหมายปลิดชีพกิ้งก่าสีดำตรงหน้า
“โครม”เสียงขวานกระทบกับพื้นลานประลองดังสนั่น
“รุนแรงจริงแต่เพราะความเร็วช้าเกินไปทำให้เป็นท่าที่ถ้าเป้าหมายไม่ถูกล็อคหรืออยู่นิ่งโอกาสถูกเป้าหมายจะน้อยกว่า20เปอร์เซนต์จึงเป็นการโจมตีระดับdเท่านั้น หน่วยเบต้า กับ อัลฟ่าก็เป็นซะอย่างงี้ไงชาวเมืองถึงหายตัวไปโดยไม่มีเบาะแส”เสียงของกิ้งก่าที่น่าจะเละไปแล้วประเมินการโจมตีของเขาและสบประมาทหน่วยอัลฟ่าและเบต้ายิ่งทำให้ราธหน้าเสียยิ่งขึ้นไปอีก
“หนอยแก....อัก””ราธยังไม่ทันพูดอะไรต่อก็ถูกยิงด้วยลูกธนูที่หน้าอก
“แกบังอาจมาก”กิ้งก่าสีแดงหน่วยอัลฟ่าตัวหนึ่งกระโดดเข้ามาในสนามพร้อมกับง้างธนูใส่กิ้งก่าดำ
“ข้าก็ไม่ชอบให้ใครมาเรียกว่าแกนักหรอกนะ จะบอกชื่อให้ฟังก็ได้ข้าชื่ออัลวิสเนตรอินทรีอัลวิส”ร่างนั้นหมือนวิสยามไม่มีผ้าปิดตามาก
“เข้ามาสิถ้าพวกนายล้มข้าได้ข้าจะถอนคำพูดก็ได้...”ร่างนั้นยังพูดไม่จบก็เอามือปิดตาข้างซ้ายก่อนที่น้ำเสียงจะเปลี่ยนไป
“อัลวิสทำอะไรโดยพลักการตลอดเลย วิสเหนื่อยเป็นนะใช้ร่างวิสแล้ว ยังเอาความเหนื่อยมาไว้ร่างวิสเนี่ยเอาเถอะชั้นอนุญาต” จากนั้นเสียงก็เปลี่ยนไปตาข้างซ้ายเปิดออก
“เอาล่ะเจ้าของร่างอนุญาตแล้วเข้ามาเลย”อัลวิสง้างธนูพร้อมยิงทันที
ทางด้านเชียร์
“เฮ้อ กว่าจะสลัดลีโอได้จะได้เที่ยวงานซะที”เชียร์ที่เผ่นหนีมาได้สำเร็จพึมพำอย่างอารมณ์ดี
“อ้าวคุณเชียร์”เสียงหวานที่คุณหูดังขึ้นก่อนที่เชียร์จะมองหาเจ้าของเสียงทันทีก่อนจะพบ
“ระ....รีส”เชียร์เลิ่กลั่กทำอะไรไม่ถูกก่อนจะคว้าเสื้อคลุมสีดำขลิบทองมาสวมพร้อมหน้ากากโอเปร่าสีขาวขึ้นมาสวมก่อนจะพูดว่า
“คือว่า ผมแอบมาเที่ยวงานน่ะครับกลัวเพื่อนจะรู้ก็เลยใส่หน้ากากน่ะละ….แล้วเธอล่ะ”สาเหตุที่แท้จริงคือเชียร์ไม่ต้องการให้ให้ใครเห็นใบหน้าที่แดงซ่านของตนนั่นเอง
“เออคือ ชั้นมาเที่ยวงานน่ะค่ะ ช่วยไปเดินเที่ยวงานเป็นเพื่อนชั้นได้ไหมคะ”รีสถามเชียร์ด้วยรอยยิ้มสดใสโดยไม่รู้ว่าใบหน้าของเชียร์ภายใต้หน้ากากนั้นแดงยิ่งกว่ามะเขือเทศอีก
“ดะ....ได้ครับ”เชียร์ตอบตะกุกตะกักเล็กน้อย
แถมรูปเชียร์
